วันอาทิตย์ที่ 3 เมษายน พ.ศ. 2554

การดูแล และยืดอายุเฟอร์นิเจอร์

การดูแล และยืดอายุเฟอร์นิเจอร์

การดูแล และยืดอายุเฟอร์นิเจอร์


ของใช้ และตกแต่งบ้าน ที่เรียกรวมๆว่า “เฟอร์นิเจอร์ ” ไม่ว่าจะเป็นโต๊ะ เก้าอี้ โซฟา ตู้ เตียง หรือโคมไฟต่างๆ ที่เราขวนขวาย ซื้อหามาใช้ และตกแต่งบ้าน ด้วยสนนราคาที่สูง ถ้าต้องการที่จะใช้มันให้คุ้มค่า อยู่ไปได้นานคู่กับบ้านของเรา เราต้องไม่มองข้ามเรื่องการดูแลรักษา เพื่อให้เฟอร์นิเจอร์เหล่านั้นอยู่กับเราไปนานๆได้

แต่ว่า “เฟอร์นิเจอร์”แต่ละประเภท ก็มีวิธีการจัดการที่แตกต่างกันไป ตามวัสดุที่ทำ และคุณสมบัติ ของวัสดุนั้นๆ การดูแลรักษา จึงต้องมีวิธีการ และอุปกรณ์ ที่ต่างกันไปด้วย ได้แก่


1. เฟอร์นิเจอร์ไม้

ไม้ นับเป็นวัสดุที่ถูกนำมาทำเป็นเฟอร์นิเจอร์สำหรับตกแต่งบ้านมากที่สุด ทั้งโต๊ะ ตู้ เตียง และเครื่องเรือนอื่นๆ ซึ่งชนิดของไม้ที่นำมาทำนั้นก็มีอยู่หลายประเภท ตั้งแต่ไม้สัก ไม้มะค่า ไม้ประดู่ ซึ่งค่อนข้างมีราคาแพง เพราะไม้หายาก ที่ได้รับความนิยมในหมู่ผู้ผลิตก็คือไม้เนื้ออ่อนอย่างไม้ยางพารา ผู้ซื้อก็นิยมเพราะมีราคาถูก สีสวย







นอก จากการทำความสะอาดเช็ดถูกำจัดฝุ่นตามปกติ เพื่อไม่ให้แมลงมาอาศัยเจาะกินเนื้อไม้ได้แล้ว เรายังควรหลีกเลี่ยง อย่าให้เฟอร์นิเจอร์ไม้ถูกแสงแดด แสงสปอตไลท์โดยตรง รวมทั้งระวังรอยขีดข่วนจากข้าวของที่วางบนเฟอร์นิเจอร์ไม้ และรอยหยดน้ำต่าง ๆ เหล่านี้ล้วนมีผลต่อความงามของเนื้อไม้ทั้งสิ้น

เฟอร์นิเจอร์ จำพวกโต๊ะทั้งหลาย ที่ใช้วางสิ่งของ จึงควรจัดหาแผ่นรองแก้ว หรือหาผ้า มาวางรองสิ่งของอื่นๆ เพื่อไม่ให้สัมผัสกับพื้นผิวของไม้โดยตรง ไม่ให้เกิดรอยขีดข่วน หรือด่างดวง แต่ถ้าไม่สามารถเลี่ยงได้ และเฟอร์นิเจอร์เป็นรอยขีดขวนขึ้นมา ให้ใช้ผ้าแตะยาขัดรองเท้าสีเดียวกับไม้ ถูตรงรอยนั้น แล้วใช้ผ้าแห้งขัดอีกครั้ง หรือใช้ผ้าสะอาดชุบน้ำมันชักเงา ถูตรงรอยขีดข่วนจนกระทั่งรอยหายไปก็ได้ (ที่จริงรอยขีดข่วนไม่ได้หายไป เพียงแต่ยาขัดรองเท้าจะทำให้ร่องรอยนั้น มีสีกลมกลืนไปกับไม้นั่นเอง)




2. เฟอร์นิเจอร์หนัง

เฟอร์นิเจอร์ หนัง เป็นวัสดุที่ได้รับความนิยมในเกือบทุกครัวเรือน ไม่ว่าจะเป็น ชุดโซฟารับแขก หรือเก้าอี้ มีทั้งหนังแท้ ราคาแพง (แต่ก็ทนทานกว่า) และหนังเทียมที่ราคาย่อมเยาว์ โดยหนังจะหุ้มอยู่ด้านนอก ส่วนภายในใช้ฟองน้ำหรือฟองยางเสริม เพื่อความนุ่มนวลรู้สึกสบายเวลานั่ง และอาจเพิ่มสปริงเพื่อทำให้เกิดการยืดหยุ่น







การ ทำความสะอาดโดยทั่วไป เราจะใช้ผ้าชุบน้ำบิดหมาดๆเช็ดถู และบางครั้งเราอาจใช้น้ำยาขัดเงา เคลือบที่ผิวเฟอร์นิเจอร์ก่อน เพื่อป้องกันสิ่งสกปรกอีกทางหนึ่ง และหากมีรอยเปื้อนก็สามารถเช็ดออกได้ด้วยการใช้ผ้าชุบน้ำสบู่อ่อนๆ ถูเบาๆ จนออกหมด




3. เฟอร์นิเจอร์หวาย

เครื่อง หวาย เป็นเฟอร์นิเจอร์ที่ให้ความรู้สึกสบาย ลวดลายถักสานดูสวยงามเป็นธรรมชาติ หลายคนมองว่าทำความสะอาดยาก เพราะมีซอกมุมมากมาย แต่ในความเป็นจริงแล้วเพียงเรามั่นปัดฝุ่นด้วยไม้ขนไก่ หรือใช้ผ้าชุบน้ำมาดๆ เช็ดอย่างสม่ำเสมอก็ทำให้เฟอร์นิเจอร์หวายอยู่กับเราได้นานขึ้นแล้ว บางทีหวายที่ถักสาน เริ่มหลุดออกมา ก็ให้รีบเสียบหรือสาบกลับเข้าไปและติดกาวให้แน่น อย่าปล่อยไว้นาน จะหลุดหมดและซ่อมยาก








แต่ ที่ต้องระวังจริงๆ คงเป็นพวกมอด ปลวก ที่อาจกัดทำลายเนื้อหวายได้ สำหรับกรณีที่มีมอดหรือปลวกขึ้น เราสามารถกำจัดได้ โดยการฉีดน้ำมันก๊าดหรือดีดีทีเข้าไปในรูที่มอดเจาะ ทิ้งไว้และฉีดซ้ำอีกครั้ง

อีกหนึ่งวิธีที่ป้องกันได้ก็คือ การวางเฟอร์นิเจอร์หวายไว้ในที่ที่เหมาะสม คือไม่วางตากแดดและไม่วางบริเวณที่ชื้นเกินไปนั่นเอง และถ้าต้องการให้เก้าอี้หวายกลับมาตึงเหมือนเดิม ก็สามารถทำได้โดยการล้างเก้าอี้หวายด้วยน้ำสบู่ร้อน แล้วล้างน้ำจนหมดสบู่ (แต่อย่าให้ถูกน้ำนาน ต้องล้างอย่างรวดเร็ว) จากนั้นนำออกตากแดดกลางแจ้งให้แห้ง เพียงเท่านี้เส้นหวายที่หย่อนคล้อยก็จะกลับมาตึงเหมือนเมื่อแรกซื้อ





4. เฟอร์นิเจอร์ไม้ไผ่

เป็น เฟอร์นิเจอร์ที่ให้ความรู้สึกสบาย เป็นกันเอง เช่นเดียวกับหวาย แข็งแรงกว่า แต่ความทนทาน ต้องขึ้นอยู่กับการดูแลรักษา เช่นเดียวกับหวาย เพราะต้องคอยระวังพวกมอด ปลวก ที่อาจกัดทำลายเนื้อไม้ได้ เมื่อมีมอดหรือปลวกขึ้น เราสามารถกำจัดได้โดยการฉีดน้ำมันก๊าดหรือดีดีทีเข้าไปในรูที่มอดเจาะ ทิ้งไว้และฉีดซ้ำอีกครั้ง








ส่วน ตัวเฟอร์นิเจอร์ไม้ไผ่ ก็ต้องใช้งานเหมือนเฟอร์นิเจอร์ไม้ เพราะมีการเคลือบผิวให้สวยงาม ทนทาน ต้องระวังการขูดขีด เป็นรอย เช่นดียวกัน





5. เฟอร์นิเจอร์ผ้า

หนึ่ง ในเฟอร์นิเจอร์ที่เพิ่มความคลาสสิคให้กับบ้าน ก็คือเฟอร์นิเจอร์ผ้า ด้วยเพราะมีลวดลายให้เลือกหลากหลาย และสีสันสวยงาม โดยผืนผ้านั้นจะเป็นตัวห่อหุ้มด้านนอก ด้านในถูกบุด้วยนวม (เหมือนเฟอร์นิเจอร์หนัง) แต่เวลาใช้งานให้ความรู้สึกสบาย มากกว่าหนัง เพราะถ่ายเทอากาศได้ดีนั่นเอง







แต่ อย่างไรก็ตาม ในความงามนั้นก็แฝงด้วยข้อด้อยบางประการ โดยเฉพาะปัญหาความสกปรกที่เกิดขึ้นบ่อยๆ เพราผ้าเปื้อนง่าย และเก็บฝุ่นได้ดี (จะไม่เหมาะกับบ้านที่มีเด็กๆ) ดังนั้นเราจึงต้องหมั่นทำความสะอาด โดยใช้แปรงหรือเครื่องดูดฝุ่นอยู่เป็นประจำ เพื่อไม่ให้ไรฝุ่นเกาะตัวจนเกิดเป็นคราบสกปรก เมื่อซื้อมาใหม่ๆ จึงควรเคลือบน้ำยาป้องกันน้ำซึมที่เฟอร์นิเจอร์เสียก่อน

แต่ถ้ามี รอยสกปรกแล้ว วิธีแก้ไขให้ผสมน้ำกับผงซักฟอกตีจนเกิดฟอง ใช้ฟองน้ำชุบฟองนั้น นำมาวางบนรอยสกปรก แล้วใช้ฟองน้ำแห้งๆ เช็ดถูจนคราบหลุดออกไป จากนั้นให้ใช้ผ้าชุบน้ำสะอาดเช็ดอีกครั้ง และเป่าให้แห้งด้วยเครื่องเป่าผมหรือพัดลม และเพื่อยืดอายุการใช้งานในยาวขึ้น ในหนึ่งปีเราควรส่งร้านทำความสะอาดสักครั้ง และควรเคลือบน้ำยาป้องกันน้ำซึมที่เฟอร์นิเจอร์ด้วย





6. เฟอร์นิเจอร์โลหะ

หาก เราต้องการความแข็งแรง และทนทานต่อการใช้งาน เฟอร์นิเจอร์โลหะ จะตอบสนองต่อความต้องการข้อนี้ ได้ดีที่สุด โดยเฉพาะตู้เก็บเอกสารที่มักเห็นในสำนักงานส่วนใหญ่






สิ่ง แรกของการดูแลก็คือ ทำให้เฟอร์นิเจอร์แห้งอยู่เสมอ และไม่ควรวางเฟอร์นิเจอร์โลหะในที่เปียกชื้น (เฟอร์นิเจอร์โลหะ ก็มีข้อเสียด้วย เพราะไม่เหมาะกับบริเวณใกล้กับทะเล เพราะไอที่เกิดจากทะเลอาจทำลายผิวโลหะได้) นอกจากนี้ยังต้องระวังไม่ให้สารละลายประเภท กรด หรือด่างเข้มข้นหกใส่ เพราะสารเหล่านี้จะทำปฏิกิริยากัดกร่อน ส่งผลให้สี หรือผิวโลหะร่อนออก หรือเป็นรอย แต่ถ้าพลาดโดนแล้วก็ควรใช้ผ้าเช็ดออกทันที




7.เฟอร์นิเจอร์พลาสติก พีวีซี หรือไฟเบอร์

เป็น เฟอร์นิเจอร์ ที่ราคาถูก ไม่ทนทาน การใช้งานต้องระวังมาก พวกเฟอร์นิเจอร์ที่ใช้กลางแจ้ง (ข้อดีของเฟอร์นิเจอร์พลาสติก คือโดนน้ำได้ ตากแดดได้) ถึงทนน้ำ ทนแดด แต่ก็ไม่ทนทาน ถ้าไม่หมั่นเช็ดถู ก็จะเป็นคราบดำจับ ไม่สวย ต้องหมั่นดูแล หรือเก็บในที่ร่มก่อน เวลาจะใช้ค่อยเอาไปวาง อย่าตั้งตากแดดไว้เลย จะไม่ทนทาน







ถ้า เรา รู้จักวิธีใช้งาน และหมั่นดูแลเฟอร์นิเจอร์ ของเราแล้ว เราก็จะสามารถใช้งานมัน ไปได้นาน ตลอดไป.... (ไม่ต้องเปลี่ยน หรือเสียเงินซื้อบ่อยๆ จะได้เก็บเงินไว้ใช้อย่างอื่นได้อีกมากมาย หลายอย่าง)

ไม่มีความคิดเห็น: